Design

Women in Design Series: Nucharin Wangphongsawasd and The Art of Wood

Introducing wood as a new art material in Thailand
Words by
Anantaya
Location
Thailand

Nucharin Wangphongsawasd and The Art of Wood summary

Wood is a material that may not be commonly seen as an artwork in Thailand, but wood is a multifunctional material that can be made into anything the maker wants, such as a strong
table or such a soft ribbon-shaped sculpture that seems like it is wavering, as Nucharin Wangphonsawasd’s works.

She is a woodworker, designer, artist, and owner of NNWW Studio. She had graduated from Industrial Design program and then had worked in an office for two years before she realised that it was not what she wanted. She quit her job and decided to go further for studying design. At first, she never thought of wood but, more by accident than design, only one school that accepted her was woodworking. She found her dream in something unexpected. Working by hand made her more concentrated and calmer and stimulated more creativity in her. Before she realised it, woodworking has been a part of her life.

The interesting aspect of her works is that they are made spontaneously. She doesn’t have thoroughly planned processes or details. All she needs is just a rough concept of, for example, the pieces of wood she will use, the tools she will use, and the keyword of what she is interested in. Then, she lets her imagination do the rest. This perfectly accords with her design philosophy “just do it”. She doesn’t like to think much before starting because, for her, no matter how the outcome will be, she has courage to start. That is all that matters.

She doesn’t want to be labeled completely as an artist or a designer because she is an artist who makes her idea concrete and exhibits her own artworks and, at the same time, she is a designer who designs her own work and journey of life.

---

ไม้ วัสดุที^ คนหลายคนคุ้นเคย แต่ไม่บ่อยนักที^ เราจะได้เห็นมันรูปแบบของงานศิลปะ คุณนุช นุชจริน หวังพงษ์ สวัสดิ นักออกแบบและศิลปินไทย เจ้าของ NNWW Studio เป็นอีกคนที^ เรียกได้ว่าจับพลัดจับผลูมาคลุกคลีกับงานไม้และ งานช่าง ซึ^ งเธอไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะเป็นงานในฝันที^ เธอตามหามาตลอด

หลังจากได้เริ^ มต้นเรียนรู้ ลงมือปฎิบัติ ใช้มือ ใช้เครื^ องจักรจดจ่ออยู่กับการทํางานไม้ คุณนุชค่อยๆ ซึมซับเสน่ห์ ของเนืÄอไม้และกระบวนการการทํางาน จนรู้ตัวอีกทีเธอก็ปล่อยให้มันกลายมาเป็นส่วนหนึ^ งของของชีวิตแล้ว คุณนุช รังสรรค์ชิÄนงานจากไม้มากมายที^ ดูประณีตจนเสมือนว่ามันผ่านการวางแผนมาอย่างละเอียดและแม่นยํา แต่แท้จริงแล้ว ผลงานเหล่านัÄนมันเกิดมาจากการเริ^ มลงมือทําเลยทันทีโดยไม่มีแผนการมากนัก และปล่อยที^ เหลือให้เป็นหน้าที^ ของไอเดีย ที^หลั^งไหลเข้ามาอย่างไม่มีกรอบหรือขีดจํากัดตลอดกระบวนการ


ความเป็นมาของ นุชจริน หวังพงษ์สวัสดิ และ NNWW Studio


“เราชอบการได้อยู่กับเครื^ องจักรเครื^ องมือ การได้ทํางานด้วยมือ มันก็ค่อยๆ สั^ งสมมาหลายๆ ปี จนเราได้รู้ว่านี^ คือ สิ^ งที^ เรารัก มันกลายเป็นส่วนหนึ^ งของชีวิตไปแล้ว เราขาดมันไม่ได้”

“นุชจบ Industrial Design ที^ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีที^ เมืองไทยก่อน หลังจากนัÄนนุชก็ทํางาน ประจําอยู่สองปี แล้วก็ไปเรียนต่อที^ อเมริกา เรียน Woodworking and Furniture Design ที^ Rochester Institute of Technology ซึ^ งเป็นจุดเริ^ มต้นที^ ทําให้รู้ตัวว่าสนใจเกี^ ยวกับด้านงานไม้ กลับมาเมืองไทยก็ทํางานต่อสักพัก แล้วก็เริ^ มทํา สตูดิโอ

ตอนสมัครไปเรียนต่อ นุชสมัครไปสี^ โรงเรียน แต่มันไม่ที^ ไหนรับเลยนอกจากที^ นี^ นุชก็ลาออกจากงานแล้วด้วย เลย คิดว่าลองไปดูแล้วกัน ถ้าไม่ไปก็ต้องทํางานออฟฟิศต่อซึ^ งมันไม่ใช่เรา นุชไปเรียนโรงเรียนฝ่ายช่าง ซึ^ งมันก็เน้นปฏิบัติ ต่าง จากตอนที^ เรียนออกแบบ อันนัÄนจะเน้นเป็นการแก้ปัญหาแบบ Functional Design ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าตัวเองชอบเรียนสาย ช่าง มารู้ตัวก็ตอนที^ ไปเรียนที^ นู่นแล้ว


“เราไม่ได้รู้อะไรเกี^ ยวกับงานไม้มาก่อน แต่โรงเรียนสอนงานช่างพอดี พอเริ^ มทํางานด้วยมือ เรียนรู้การใช้ เครื^ องจักร เรารู้ถึงความแตกต่างที^ เกิดกับตัวเองเลยว่าเรามีสมาธิมากขึÄน เราหงุดหงิดน้อยลง และเรารู้สึกเป็นตัวของ ตัวเองมากขึÄน มันเป็นสิ^ งที^ เราอยู่ด้วยแล้วเราอิน ตอนอยู่เมืองไทยไม่รู้ เราไม่มีโอกาสได้ลองเพราะมันไม่ได้มีงานด้านนีÄ เยอะ

กลับมาก็ประมาณปี 2013 อุปกรณ์ เครื^ องมือเครื^ องไม้ และสตูดิโอทํางานไม้ก็ยังไม่ได้เยอะเท่าช่วงปีหลังๆ ตอน นัÄนก็เลยตัÄงใจว่าต้องมีสตูดิโอ จะได้มีที^ ให้ทํางาน หลักๆ คือต้องการที^ ทํางานนี^ แหละค่ะ นี^ ก็เข้าปีที^ 5 แล้วเพิ^ งจะเริ^ มลงตัว นุชก็ต้องปรับตัวค่ะ พอมาเปิดสตูดิโอของตัวเองเราก็ต้องดูแลตัวเอง ออกแบบวิธีการทํางานเอง มันก็ต้องค่อยๆ ใช้เวลา ปรับตัวให้มันลงตัว อะไรไหวก็ไหว ไม่ไหวก็ไปทําปีหน้า”

บุคคลที เป็นแรงบันดาลใจของ นุชจริน หวังพงษ์สวัสดิ

“มีศิลปินคนญี^ ปุ่นคนหนึ^ ง ยูริ โคบายาชิ นุชเจอเขาตอนไปอเมริกา เขาทํางานอยู่ที^ อเมริกามาเป็นสิบปีแล้ว เขา เป็นบุคคลต้นแบบของคนทํางานไม้แทบจะทุกคนนะ สังคมการทํางานไม้ที^อเมริกามันเป็นสังคมที^แข่งขันและหํÄาหั^นกัน ค่อนข้างสูง มันเป็นสังคมที^ เน้นอิสระทางการพูด คนจะตรงมาก พอเราเห็นคนเอเชียที^ ไปอยู่ที^ นั^ นนาน แล้วได้รับความ เคารพ ทุกคนชอบเขามาก ทําให้เรารู้สึกว่าจริงๆ มันก็มีผู้หญิงที^ พืÄนเพเป็นคนเอเชียเหมือนกันแล้วเขาก็ทําได้ ทําได้ดี และ ยังเป็นตัวเอง ไม่ได้ถูกสังคมอเมริกาเปลี^ ยนแปลงอะไร เขายังมีความสุภาพในแบบเอเชีย แต่พอมีปัญหาอะไรเขาก็พูดนะ ไม่ปล่อยผ่าน เราเลยค่อนข้างชื^ นชมคนนีÄมาก ทัÄงในแง่เรื^ องงานและเรื^ องลักษณะนิสัย

จากการไปอยู่ที^นั^นทําให้นุชเรียนรู้ว่ามีอะไรเราต้องพูด ถ้าเราไม่รักษาสิทธิ ตัวเองก็ไม่มีใครรักษาสิทธิ ให้เรา ทําให้ เรากล้าขึÄน เวลามีปัญหาอะไรก็จัดการเลย แต่พอมาเมืองไทย เราก็ดูจังหวะ ดูว่าเราคุยกับใคร คนนัÄนรับฟังไหม ถ้าไม่เราก็ ต้องปรับนิดหน่อย ต้องลองดู เวลานุชทํางานนุชรู้สึกว่า ถ้าเห็นปัญหาแล้ว เราอยู่ตรงนัÄนเราก็อยากแก้ จะได้มี ประสิทธิภาพมากขึÄน”

บุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจของ นุชจริน หวังพงษ์สวัสดิ์


วิธีฟื นตัวเองเวลาที หมดไฟ

“เราต้องรู้ต้นตอว่าสิ^ งเราเป็นมันมาจากอะไร และอย่ากดดันตัวเองเยอะเกินไป เพราะสุดท้ายแล้วเราไหวเท่าที^ เรา ไหวจริงๆ” “การหมดไฟ เหนื^ อยมากๆ จนทําอะไรไม่ไหว คิดไม่ออก มันเป็นปกติของการทํางานนะ ไม่ว่าจะงานที^ รักแค่ไหน มันก็มีหมด นุชว่าหลักๆ คือเราต้องรู้ตัวเองก่อนว่าตอนนีÄเราไม่โอเคเพราะอะไร ถ้าเพราะงานไม่โอเค เช่น ทําไปเท่าไหร่ ก็ ไม่ได้รับการตอบรับที^ โอเค เราก็ต้องดูว่าเราจะแก้ปัญหายังไง หรือว่าถ้าไม่โอเคเพราะเราอยู่ในสภาวะที^ ไม่โอเค เช่นมี ปัญหาส่วนตัวเยอะ สุขภาพไม่ดี อันนีÄก็ต้องแก้ที^ การใช้ชีวิตประจําวัน ถามว่าทํายังไง จริงๆ ก็ต้องให้เวลาตัวเอง ใจเย็นๆ เพราะว่าบางปัญหากว่าจะแก้ได้มันหลายปี มันมีทัÄงวันที^ โอเคและวันที^ ไม่โอเค อย่าไปตอกยํÄาตัวเองเยอะ ถ้าวันไหนโอเคมี แรงก็ทําให้เยอะที^ สุด เราต้องมีสติ ต้องคอยเตือนตัวเอง

จริงๆ ก่อนนุชเป็นคนที^ เวลาทํางานจะเกินขีดจํากัด พอเหนื^ อยมากเราจะคิดอะไรไม่ออกจนหมดไฟ กว่าจะฟืÄนตัว กลับมาได้นานมาก ตอนนีÄเรารู้ตัวมากขึÄนกับวิธีการทํางานใหม่ เช่น ถ้าอยู่กับอะไรนานๆ ติดๆ กัน เราจะเครียดง่าย ดังนัÄน ถ้าทํางานติดกันไปแล้วสามวัน ต้องมีหนึ^ งวันที^ เราต้องไม่เข้าสตู ให้เราเบรกออกมาก่อน จะได้ฟืÄนพลังและกลับไปทํางานได้ ใหม่ นุชก็ยังลองผิดลองถูกนะ ไม่มีคําตอบตายตัว แล้วแต่สถานการณ์ไป นุชว่าสําคัญคือเราต้องคอยเช็คกับตัวเองเรื^ อยๆ ว่าตอนนีÄเราโอเคมัÄย นอนพอมัÄย กินอาหารมีประโยชน์หรือเปล่า ทัÄงร่างกายและจิตใจ”


วิธีฟื้นตัวเองเวลาที่หมดไฟ


หลักการในการออกแบบของ นุชจริน หวังพงษ์สวัสดิ

“ง่ายๆ เลยค่ะ ขอแค่ได้ทําก็พอ จะออกมาดีไม่ดีไม่เป็นไร ขอแค่เรายังมีความกล้าที^ จะทําอยู่”

“ถึงคิดอะไรไม่ออก วันนีÄเขาสตูมาก่อน มาดูว่ามีอะไรบ้างและทําอะไรได้บ้าง ส่วนใหญ่นุชจะพูดแบบนีÄ นุชไม่ใช่ คนประเภทว่านั^งให้ไอเดียออกแล้วทํางาน หลายอย่างมันเกิดขึÄนระหว่างกระบวนการทํา เพราะฉะนัÄนถ้านุชไม่เริ^มทํา นุชก็ จะไม่รู้ว่านุชอยากทําอะไร ส่วนใหญ่นุชจะทําไปด้วยคิดไปด้วย นุชจะไม่วางแผนมาก จะตัÄงโจทย์ง่ายๆ ให้ตัวเองก่อน ดูซิ ว่าเรามีอะไรบ้าง มีเวลากี^ชั^วโมง อยากทํางานกับเครื^องมือประเภทไหน แล้วค่อยๆ ทํา แล้วค่อยๆ แคบลงมา จะไม่ พยายามจํากัดตัวเองว่าแบบมันต้องเป็นเก้าอีÄนะ พยายามจะปรับกระบวนการจากที^ เคยเรียนให้เป็นอีกแบบหนึ^ ง เพราะ มันเป็นตัวเราเองมากกว่า มีแค่แผนคร่าวๆ แต่ในเรื^ องดีไซน์เรื^ องรูปร่างก็ปล่อยให้เกิดขึÄนระหว่างการทํางาน”

สิ งที อยากแก้ไขและทําเพิ มหากย้อนเวลากลับไปตอนเริ มเป็นดีไซน์เนอร์

“ต้องบอกก่อนว่านุชเป็นคนที^ จะไม่พยายามคิดย้อน แต่ถ้าให้คิดคือตอนนีÄเรารู้แล้วว่าปัญหาที^ เกิดขึÄนในช่วงต้น เกิดจากอะไรบ้าง ถ้าเกิดต้องวางแผนสําหรับอะไรอย่างนีÄอีกครัÄง นุชจะบอกตัวเองว่าให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด ยังไม่ต้องรีบ ตัดสินใจ ไม่ต้องพยายามให้ทุกอย่างมันเป็นอย่างที^ เราต้องการ หลายอย่างมันควบคุมไม่ได้ พอเราพยายามควบคุมแล้ว ไม่ได้เราจะผิดหวัง เมื^ อก่อนเราไม่ยืดหยุนเท่าตอนนีÄ แต่ตอนนีÄเรารู้แล้วว่าถ้าเราปล่อยสบายๆ บ้าง เราจะจัดการกับ ความเครียดได้ง่ายกว่า”


หลักการในการออกแบบของ นุชจริน หวังพงษ์สวัสดิ์


ประเด็นและปัญหาในวงการดีไซน์เนอร์ไทยดีไซน์เนอร์หน้าใหม่

“ปัญหาที^ ตัวของนุชรู้สึก คือความเข้าใจของคนส่วนใหญ่ที^ มีต่อ ดีไซน์ งานในสายครีเอทีฟ และงานศิลปะ ถ้า หากมีความเข้าใจที^ ดีขึÄนว่าสิ^ งเหล่านีÄคือสิ^ งจําเป็น ไม่ใช่เป็นเพียงสินค้าราคาสูงและสิ^ งฟุ่มเฟือย และเข้าใจว่าดีไซน์เนอร์ หรือศิลปินคืออาชีพหนึ^ง คือคนทั^วไป ที^ต้องกินต้องใช้ นุชคิดว่าน่าจะทําให้คนให้คุณค่ามากขึÄน”

“งานออกแบบบ้านเรามีคุณภาพมาก วงการครีเอทีฟ และวงการศิลปะ ไม่ได้แพ้ต่างชาติแน่นอน นุชเข้าใจนะว่า คนทั^วไปที^ยังต้องทํางานหาเช้ากินคํ^า มีปัญหาหนีÄสิน คงไม่มีใครหรอกที^ต้องการมีรายจ่ายเพิ^มให้กับศิลปะหรือดีไซน์ เรา อาจจะต้องเชื^ อมโยงศิลปะให้เข้าไปอยู่ในชีวิตประจําวันให้มากขึÄน เหมือนอย่างคนยุโรปหรือคนญี^ ปุ่น เขาอาจจะไม่ต้องมี คําถามนีÄแล้วเพราะเขาโตมากับงานออกแบบและศิลปะรอบตัวอยู่แล้ว แม้กระทั^งถังขยะที^เขาใช้ตามท้องถนนก็ผ่านการ ออกแบบมาทัÄงเรื^ องหน้าตาและการใช้งาน สําหรับเขาดีไซน์และศิลปะมันรวมอยู่ในการดําเนินชีวิตประจําวันไปแล้ว ทําให้ การดําเนินชีวิตมีคุณภาพและสุนทรีย์มากขึÄน ดังนัÄนไม่จําเป็นต้องเป็นนักออกแบบพวกเขาก็สามารถเข้าใจสิ^ งเหล่านีÄได้ ส่วนบ้านเราอาจจะยังค่อนข้างไกลในแง่ของระบบต่างๆ บวกกับมันมีความเข้าใจที^ บางคนเข้าใจว่าการเป็นนักออกแบบ หรือศิลปิน ส่วนใหญ่จะเป็นเหมือน celebrity จริงๆ มันก็มีกลุ่มคนที^ เขาอยู่ในระดับนัÄนนะ แต่โดยรวมกว่า 70 - 80 เปอร์เซ็นต์ ก็คือคนปกติทั^วไปที^เขาทํางานเพื^อหาเงินเลีÄยงชีวิต ต้องนอน ต้องกิน ต้องใช้ ไม่ได้ต่างจากบุคคลทั^วไป มันก็คง ต้องใช้เวลาปรับ เรื^ องความเข้าใจนีÄเป็นเรื^ องที^ เปลี^ ยนยาก ยิ^ งสังคมของเราเป็นสังคมที^ ไม่ค่อยชอบและชินกับการ เปลี^ ยนแปลง”

สิ งที อยากถูกจดจําหรือถูกกล่าวถึง

“นุชไม่สนใจว่าคนจะมองนุชเป็นอะไร เพราะถ้าจะมานิยามตัวเองมันต้องอธิบายเยอะมาก แต่ละคนก็มองเราไม่ เหมือนกัน ให้นึกถึงนุชว่าเป็น ‘คนทํางานไม้’ ก็พอ”

“เรียกว่านุชเป็นดีไซน์เนอร์ก็ไม่น่าจะใช่ นุชไม่ได้อยู่ในวงการดีไซน์มานานแล้วนะ เพราะส่วนใหญ่ทํางานก็จะเอา ไปจัดแสดงกับแกลลอรี^ ซึ^ งมันก็ต่างกับดีไซน์เนอร์พอสมควร แต่นุชเองก็ไม่ได้จบศิลปะเพียวๆ ไม่ได้เป็นศิลปิน 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ^ งในโลกตอนนีÄทุกอย่างมันผสมกันหมด ตัÄงแต่ตอนเรียนปริญญาตรี พืÄนฐานนุชเป็น Industrial Design ซึ^ งเน้น ให้ใช้หลักการออกแบบในการแก้ปัญหา ปรับปรุงชีวิตให้ดีขึÄน ยังไงความเป็นนักออกแบบในเรื^ องการใช้ชีวิตหรือมุมมอง นุชยังมีอยู่แน่นอน แต่พอไปอยู่ที^ อเมริกา มันก็เน้นสอนสายช่าง เรื^ องงานฝีมือ เขาจะไม่ถกเรื^ องฟังก์ชั^ นหรือการทําตลาด มาก แต่จะดูว่าไอเดียเป็นยังไง มีที^ มาจากอะไร มันก็เป็นโลกที^ ต่างกัน”

“นุชไม่ค่อยสนใจว่าจะเรียกตัวเองว่าอะไร แต่ที^ ไม่ค่อยอยากเรียกตัวเองว่านักออกแบบเพราะงานที^ ทําอยู่ทุกวันนีÄ มันไม่ได้ตอบโจทย์ในวงการดีไซน์เท่าไร นุชไม่ได้รับงานออกแบบให้ลูกค้ามานานแล้ว แต่ก็ยังใช้การออกแบบกระบวนการ ทํางาน ยังใช้ความสามารถในการดีไซน์ของเราอยู่ตลอด ความเป็นดีไซน์มันอยู่ในการดําเนินชีวิตไปแล้ว”






สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดยนางสาวอนันตญา พรวิเชียรวงศ์



Related Articles