Pimm Teaspoon summary

Pimm Chongcharoen, a designer and owner of Teaspoon studio.

She is passionate about the art of paper, and the art of cutting, pasting and making collages. The simplicity of paper makes it a perfect medium to express her endless imagination. However, what isn't simply a paper artist. Her imagination pushes her toward anything that concerns with design. She designs a lot of works that aren’t limited with only paper. The spirit of art has been in her since she was young.

Having been unable to get into the college of Art, she might question her ability but that couldn’t stop her passion at all. She decided to continue studying design after graduation and then finally opened her own studio. She said that her role model is anyone with determination and patience. Anyone who never abandons their dreams, just like her. She asserted that determination and patience are the most important qualities for every kinds of work, because no matter how much ones love their works, there will be a day that all the passion burns out.

There is no way to immediately recover, she said. Like finding an inspiration, there is also no immediate way to find it. It is all a matter of timing, along with determination and patience. When we look at Pimm’s works, we usually recognise . It is like we found her signature on and in them. This is no surprise because her design philosophy is ‘Be yourself’. She wants all of her work to have a piece of her, to have her uniqueness. She doesn’t care what people label her or what they remember her. Lovers gonna love and haters gonna hate. This doesn’t matter as long as she is happy with herself.

---

พิม จงเจริญ ศิลปิน นักออกแบบ และผู้ก่อตั 9ง Teaspoon Studio หญิงสาวผู้รักในศิลปะมาตั 9งแต่เด็ก เธอ
หลงใหลการทํางานด้วยมือมากกว่าการใช้คอมพิวเตอร์ เธอชอบศิลปะในการใช้มือค่อยๆ บรรจงวาด ตัด และแปะงาน
คอลลาจ หลายคนทีWติดตามผลงานของเธออาจจะมองว่าเธอเป็นเปเปอร์อาร์ทิส เพราะเรามักจะได้เห็นผลงานจาก
กระดาษมากมายทีWเป็นเครืWองถ่ายทอดจินตนาการอันไม่สิ 9นสุดของเธอ

‍
ใช่... กระดาษคือหนีWงในวัสดุหลักๆ ทีWเธอชอบใช้ เธอหลงใหลในความเรียบง่ายทีWสามารถสร้างสรรค์สิWงทีW
หลากหลายของกระดาษเปล่าแต่ด้วยความรักในการออกแบบและการทํางานศิลป์ ของเธอ เธอจึงสามารถทํางานได้
หลากหลายทั 9งออกแบบบรรจุภัณฑ์ ออกแบบลายกระเบื 9อง ทํากราฟฟิ คดีไซน์ เธอทําได้ตั 9งแต่การออกแบบห่อขนมเล็กๆ
ไปจนถึงการออกแบบประติมากรรมชิ 9นใหญ่ ความสามารถของเธอไม่ได้จํากัดอยู่แค่การใช้กระดาษเท่านั 9น เธอยินดีทีWจะ
ทํางานทีWหลากหลาย ขอเพียงแต่ได้เป็นตัวของตัวเองเท่านั 9น

‍
ความเป็ นมาของ พิม จงเจริญ และ Teaspoon Studio

‍
“เราสอบไม่ติดศิลปกรรมศาสตร์ เลยไปเรียนรัฐศาสตร์ก่อน ตรงนี 9มันเหมือนเป็นปมในใจเรามาตลอด แต่ก็เป็น
แรงผลักดันให้เรามีวันนี 9”

‍
“ตอนมัธยมเราวาดรูปมาตลอดเลยนะ พอสอบไม่ติดมันเลยทําให้เฟลมาก เราก็ไม่รู้ว่าทําไมเราสอบไม่ติด พอ
เรียนจบเลยตัดสินใจไปเรียนต่อด้านนี 9ทีWอังกฤษเพราะเราอยากทําจริงๆ กลับมาก็เลยมาเปิดสตูดิโอ ถึงวันนี 9ก็ i ปีแล้ว ตอน
j ปีแรกอยู่คนเดียว อยากทําอะไรก็ทํา”
“จริงๆ เราไปเรียนทีWนู่นเขาก็ไม่ได้สอนทักษะอะไรมาก เราได้ความครีเอทีฟเป็นหลัก เราเลยไม่มีพื 9นฐานการวาด
ทีWถูกต้อง เราไม่ชอบวาดส่วนมือของตัวคนเลย เพราะวาดยังไงก็ไม่สวย เวลาต้องวาดก็จะหาทางวาดล้วงกระเป๋ าหรืออะไร
ไป พอมีน้องฝึกงานมาเราก็เลยวาดทั 9งหมด แล้วให้เขาวาดมือให้ เขาเครียดนานมาก แล้วก็มาบอกเราว่า พีWพิมคะ หนูขอ
ลบหมดเลยได้มั 9ยคะ มันผิดสัดส่วนไปหมดเลยค่ะ นีWถึงปลดล็อคเราว่า อ๋อ นีWไงถึงสอบไม่ติด เราไม่ได้เสียใจเลยนะ แล้วเรา
ก็เรียนรู้จากน้องฝึกงานเอาให้เขาสอนเราไปเรืWอยๆ มีอะไรก็ถาม น้องเขาเก่งกันมาก”

‍
บุคคลทีQเป็ นแรงบันดาลใจของพิม จงเจริญ
“พิมไม่มีไอดอล พิมชอบทุกคนทีWเป็นคนขยัน อดทน”
“ไม่ใช่แค่ศิลปินด้วยนะ ทุกอาชีพ ชีวิตทุกวันนี 9มันเร็วมาก เราทําไรแปปๆ ก็เลิก ก็เปลีWยน พิมเลยนับถือคนทีWขยัน
และอดทนทําในสิWงทีWตัวเองรัก ทีWบางครั 9งเราอาจจะทํามันมากจนมันเกิดความเบืWอ มีแต่คนบอกว่าอิจฉาทีWเรามีอาชีพทีWเป็น
สิWงทีWเราชอบ แต่ทีWจริงแล้วขนาดเราชอบมันขนาดนี 9มันยังมีวันทีWเราเบืWอ มีวันทีWเรารู้สึกแย่ ยิWงเราเป็นหัวหน้ามีลูกน้องต้อง
ดูแล เราต้องแอคทีฟตลอดเวลา เราจะเฟล จะหดหู่ไม่ได้เพราะมีคนทีWเขาต้องรับพลังบวกจากเรา มันยากมากนะ แต่นัWน
แหละเราก็ต้องอดทน พิมเลยนับถือคนทีWเขามีความอดทนมากๆ”

‍
วิธีฟืXนตัวเองเวลาทีQหมดไฟ
“พิมเชืWอว่าไม่มี”
“เหมือนถามว่าหาแรงบันดาลใจจากไหนนัWนแหละ มันไม่มี ไม่ใช่ว่า เฮ้ย หมดไฟ เดีoยวไปเทีWยวเมืองนอกกลับมา
หายละ ไปหาแรงบันดาลใจ ไปเมืองนอก ได้แรงบันดาลใจละ คือไปเทีWยวมันดีนะ แต่แรงบันดาลใจหรือวิธีทําให้หายหมด
ไฟมันไม่ใช่สิWงทีWจะไปหากันได้ พิมว่ามันไม่มีอะไรทีWแว๊บเดียวแล้วได้ หรือแว๊บเดียวแล้วหาย มันเป็นสิWงทีWต้องใช้เวลา ต้อง

สะสมมา อย่างพิมก็เคยหมดไฟบ่อยมาก วันทีWหดหู่สุดคือวันทีWต้องแก้งานตามทีWลูกค้าสัWง มันรู้สึกว่าทําไมเราต้องมาแก้
ทําไมเราไม่ได้วาดในสิWงทีWเราเป็นตัวเอง แต่สุดท้ายเราก็คิดได้ว่า เออสิWงทีWเราทํามันก็แค่อาชีพหนึWงนีWหว่า แต่นัWนแหละเราก็
ต้องกินต้องอยู่ มีลูกน้องทีWต้องดูแล พิมถึงบอกว่ามันไม่มีวิธีเฉพาะทีWทําให้หาย มันต้องใช้เวลา อย่างทีWบอก คนจะอิจฉาว่า
เราได้ทํางานทีWรัก แต่จริงๆทุกอย่างมันมีความเครียด”

‍
หลักการในการออกแบบของ พิม จงเจริญ
“มีสองอย่างคือ หนึWง เวลาทํางานอะไรเราจะทําให้ถึงทีWสุด สอง เป็นตัวของตัวเอง”
“เวลาลูกค้าให้เราทํางานถึงแค่นี 9 งบเท่านี 9 แล้วจะเอาไปทําต่อเอง เราจะรู้สึกไม่ดี เราจะเสนอไปเลยว่าทําให้ก็ได้
ค่ะ ไม่เป็นไร เพราะมันเป็นงานเรา เราอยากให้มันถึงทีWสุด และอย่างทีWบอก เป็นตัวของตัวเอง งานพิมมันจะมีเอกลักษณ์มี
ลายเซ็นของพิมเลย เราจะไม่ชอบเวลาทีWลูกค้าให้เรฟเฟอเร็นซ์มาแล้วจะเอาตามเรฟเป๊ ะๆ เราอยากให้เค้าให้คอนเซ็ปต์
มาแล้วเราจะบอกว่าเราทําอะไรได้บ้าง ให้เราได้คิด ให้เราได้ใส่ความเป็นตัวเองลงไปผสมด้วย ถ้าทําตามแบบเป๊ ะมันก็คือ
ไม่ได้คิดเลยนะ”

‍
สิQงทีQอยากแก้ไขและทําเพิQมหากย้อนเวลากลับไปตอนเริQมเป็ นดีไซน์เนอร์
“ไม่มีค่ะ รู้สึกว่าช่วงนั 9นเป็นช่วงทีWมีความสุขมาก เพิWงจบใหม่ เปิดสตูดิโออยู่คนเดียวเลย อยากทําอะไรก็ทํา วัน
หนึWงเกิดอยากจะตัดกระดาษทําต้นกระบองเพชรก็ทํา เป็นช่วงทีWเราบ้า มากสนุกมาก เรายังไม่คิดเรืWองเงินมาก แต่พอ
ตอนนี 9มันมีเรืWองเงินเข้ามาเกีWยว เราก็โตขึ 9นต้องระวังมากขึ 9น”
ประเด็นและปัญหาในวงการดีไซน์เนอร์ไทยดีไซน์เนอร์หน้าใหม่
“คิดว่าคนไทยยังไม่ให้ความสําคัญกับงานดีไซน์ไม่เข้าใจว่าทําไมราคามันต้องแพงและยังเห็นว่าของต่างชาติ
ดีกว่า”
“เห็นได้ชัดเลยจากการเอาเรฟเฟอเร็นซ์จากต่างประเทศมาแล้วมันก็ยากเพราะเขาไม่เข้าใจว่ามันเป็นแค่เรฟ
เขาจะเอาตามนั 9นเป๊ ะๆ บางทีเจอแบบนั 9นเราไม่ทําต่อเลยนะ เพราะมันไม่ใช่การใช้ความคิด การดีไซน์แล้ว คนไทยยังไม่
เข้าใจงานดีไซน์เท่าไหร่และยิWงรัฐไม่ได้สนับสนุนด้านนี 9นัก ตัวดีไซน์เนอร์เองก็ไม่มีโอกาสทีWจะโชว์ผลงานตัวเองแค่คิดว่าจะ
ทํานิทรรศการจัดแสดงผลงานตัวเองก็ยากแล้ว ไหนจะต้นทุน การขออนุญาต เราไม่มีโอกาสโชว์งานของเราร้อยเปอร์เซ็นต์
ถึงมันจะมีพวก TCDC แต่มันก็ยังมีต้นทุนทีWต้องใช้ก็ได้แต่ทําผ่านงานลูกค้าซึWงมันก็ไม่ใช่ตัวเราทั 9งหมดอีก”
“ทุกวันนี 9มีดีไซน์เนอร์เก่งๆ เยอะมากเลยนะ เขาแค่ไม่ค่อยได้ออกสืWอ หรือออกสืWอน้อย คนจึงไม่รู้จัก ลองมาแถว
สตูดิโอของพิมจะมีสตูดิโอเล็กๆ เต็มไปหมด ก็อยากสนับสนุนให้มีโอกาสได้แสดงผลงานเยอะกว่านี 9มีนิทรรศการ มีพื 9นทีW
ให้เราได้ทํา เพราะจะให้ลุกมาทําเองใช้ทุนตัวเอง เราก็ไม่ไหว”

‍
สQงิทQอียากถกู จดจาํ หรือถกู กล่าวถงึ
“ไม่มีค่ะ เราคิดว่าเรามีความสุขทีWจะทําอะไรก็พอแล้ว ใครอยากเรียกเรา จดจําเราอย่างไร นัWนเป็นเรืWองของเขา”
“เราทําหลายอย่าง มีหลายบทบาทมาก อย่างบางคนจะเรียกเราว่าเปเปอร์อาร์ทิส แต่เราก็มีงานอย่างอืWนทีWใช่แค่
จากกระดาษ บางครั 9งเราก็ออกแบบลายให้เขาไปพริ 9นต์ลงกระเบื 9อง ตกแต่งห้อง คนก็จะงงว่า Teaspoon ทําอินทีเรียด้วย
เหรอ คืองานมันทับซ้อนกันไปหมด นิยามในคําคําเดียวไม่ได้ เราทําอะไรแล้วมีความสุขก็พอ มันมีทั 9งคนทีWชอบและไม่ชอบ
อยู่แล้ว ใครจะเรียกเราอย่างไร จดจําอย่างไรก็เรืWองของเขา”

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย นางสาวอนันตญา พรวิเชียรวงศ์

‍